เจาะลึกอินไซต์จากทีม TikTok

เจาะลึกอินไซต์ จาก ทีม TikTok

        เมื่อพูดถึงแลตฟอร์มพลังแรงแบบฉุดไม่อยู่ของ TikTok คอมมูนิตี้คอมเมิร์ซ (Community Commerce)เป็นการตลาดที่ให้ความบันเทิงแบบปากต่อปาก ซึ่งขับเคลื่อนและได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2021คนชื่นชอบการตลาดแนวนี้เพราะทำให้ได้เห็นการรีวิวผลิตภัณฑ์อย่างตรงไปตรงมา และความจริงใจนี้เองคือปัจจัยสำคัญที่สร้างความแตกต่างให้กับเราผู้ใช้ส่วนใหญ่ระบุว่าคอนเทนต์ TikTok มีความจริงใจต่อผู้ชม และในส่วนของวิดีโอนำเสนอสินค้าเองก็ให้ความบันเทิงเช่นกัน ซึ่งนับเป็นคุณลักษณะที่ดึงดูดผู้ชมได้อย่างมากเนื่องจากผู้ใช้เข้ามาที่แพลตฟอร์มเพื่อความบันเทิงเป็นส่วนใหญ่ และด้วยระบบแนะนำคอนเทนต์ของเรา ผู้ใช้จึงสามารถรับชมฟีด For You และค้นพบผลิตภัณฑ์ที่ตนเองสนใจปรากฏการณ์นี้มีส่วนช่วยผลักดันให้หลากหลายแบรนด์ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง

ช่วงระยะเวลาต่างๆ ของการทำคอมมูนิตี้คอมเมิร์ซ

เพื่อให้คุณเข้าใจถึงวิธีการที่เทรนด์ต่างๆ มีส่วนช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จ เราจึงได้นำเบื้องหลังความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ที่ Sold Out ในปีนี้ด้วย TikTok มาอธิบายพร้อมชี้ให้เห็นถึงแต่ละกระบวนการ ตามแนวทาง 4 ขั้นตอนของคอมมูนิตี้คอมเมิร์ซ

  1. ระยะจุดประกาย (Spark Phase): ครีเอเตอร์ หรือแบรนด์โพสต์วีดีโอสนุกๆที่นำเสนอ ผลิตภัณฑ์   ผู้ใช้งาน Trinidad Sandoval โพสต์รีวิวของผลิตภัณฑ์ Peter Thomas Roth Instant FIRMx Eye Temporary Eye Tightener อย่างเรียบง่าย ตรงไปตรงมา ผ่านคลิปที่พูดกับกล้องตรงๆ

  2. ระยะแชร์ (Share Phase): คอมมูนิตี้มีส่วนร่วมในวงสนทนาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และช่วยดันกระแส ผู้ใช้งานคนอื่นๆ ชื่นชอบวิดีโอนี้ โดยภายในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ คลิปนี้สามารถเรียกยอดไลค์ได้กว่า 23 ล้านไลค์ บวกกับคอมเมนต์อีกนับหมื่น พร้อมกับกระแสตอบรับและการพูดถึงอีกมากมาย

  3. ระยะพุ่ง (Spike Phase): ครีเอเตอร์หรือแบรนด์โพสต์วิดีโอสนุกๆ ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ สินค้าขายหมดซ้ำแล้วซ้ำเล่าบนเว็บไซต์ของแบรนด์และเว็บไซต์ของบรรดาตัวแทนจำหน่ายเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของแบรนด์กล่าวว่าแบรนด์สามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในจำนวนที่ปกติใช้เวลาประมาณ 6 เดือนได้ภายในเพียง 6 สัปดาห์เพราะ TikTok

  4. ระยะสร้างความยั่งยืน (Sustain Phase): แบรนด์ดำเนินการทั้งในและนอกแพลตฟอร์มเพื่อทำให้ผู้บริโภคสนใจอย่างต่อเนื่อง แบรนด์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ขนาดจัมโบ้และกำลังวางแผนที่จะบูสต์วิดีโอของ Trinidad เมื่อการเข้าชมเว็บไซต์แบบออร์แกนิคเริ่มลดลง

ข้อมูลเชิงลึกในแง่ของผู้ชม TikTok ในปี 2022 

ทุกๆ วัน เรามีโอกาสได้เรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการจากแบรนด์ต่างๆบน TikTok ตลอดจนอิทธิพลของคอมมูนิตี้ที่มีต่อพฤติกรรมของผู้ใช้งาน และระดับความเต็มใจของผู้ใช้งานในการซื้อสินค้า จาก TikTok ต่อไปคีอข้อมูลเชิงลึกของผู้ใช้งาน TikTok ที่แบรนด์ควรนำไปพิจารณาในการวางแผนสำหรับตลอดปี 2022

73% ของผู้ใช้งานรู้สึกเชื่อมต่อกับแบรนด์ที่พวกเขามีปฏิสัมพันธ์ด้วยบน TikTok ได้อย่างลึกซึ้งมากกว่า เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ²

78% ของผู้ใช้งานเห็นด้วยว่าแบรนด์ที่ดีที่สุดบน TikTok คือแบรนด์ที่ทำงานร่วมกับผู้ใช้งาน

70% ของผู้ใช้งานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้บน TikTok

67% ของผู้ใช้งานระบุว่า TikTok มีส่วนช่วยส่งเสริมกระตุ้นให้พวกเขาซื้อสินค้าแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ตั้งใจเข้ามาเพื่อ่ซื้อของก็ตาม

ทะยานสู่ “การค้า”ในคอมมูนิตี้คอมเมิร์ซ

ปี 2022 จะเป็นปีแรกสำหรับ TikTok Shopping ซึ่งเป็นชุดเครื่องมืออีคอมเมิร์ซของเราที่จะเปลี่ยนวิดีโอให้กลายเป็นความบันเทิงที่ช้อปได้ โซลูชันนี้จะช่วยให้แบรนด์ใช้ประโยชน์จากพลังของการขายได้ง่ายกว่าที่เคย เพราะจะทำให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ที่พบบนหน้า For You ของตัวเองได้ทันที ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์บางส่วนที่อยู่ใน GA ปัจจุบัน ได้แก่

  1. ลิงก์ผลิตภัณฑ์ป้ายที่ช่วยให้แบรนด์สามารถไฮไลต์สินค้าในวิดีโอออร์แกนิกให้โดดเด่น และนำผู้ใช้ไปยังหน้าข้อมูลผลิตภัณฑ์

  2. โฆษณาคอลเลกชันการเลื่อนสลับการ์ดผลิตภัณฑ์ไปเรื่อยๆ บนวิดีโอที่แสดงไอเทมหลายรายการในประสบการณ์เดียว พร้อมกับเชื่อมไปยังลิงก์ของสินค้าเหล่านั้น

  3. Dynamic Showcase Ads เครื่องมือที่จะเปลี่ยนสินค้าในสต๊อกของคุณให้เป็นโฆษณาโดยอัตโนมัติและนำเสนอไปยังผู้ชม สนใจในสินค้านั้นๆ  มากทที่สุดโดยอิงจากข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และพฤติกรรมของผู้ใช้งานในแอปของคุณ

เครื่องมือเหล่านี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นตราบใดที่คุณนำความบันเทิงมาสู่ TikTok เราก็จะยังคงมุ่งหน้านำเสนอโซลูชันโดยเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ใกล้กับคำว่า“ลูกค้า” มากที่สุด เพื่อช่วยให้คุณสร้างคอนเวอร์ชันได้สำเร็จ Evolution of Sound 

ทุกคนคงพอจะทราบกันดีว่าเสียงเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความแตกต่างให้กับ TikTok และปี 2021ก็ถือว่าเป็นปีที่ “เปรี้ยงปร้าง” ที่สุดของเราก็ว่าได้เราค้นพบงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นถึงอิทธิพลของเสียงที่มีต่อความมีประสิทธิภาพบน TikTok รวมถึงอิทธิพลที่ TikTok มีต่อวงการเพลง และการที่เสียงบางประเภทสามารถกระตุ้นความรู้สึกของผู้คนได้เราเห็นแบรนด์ต่างๆ เปิดตัวแคมเปญ โดยใช้เสียงเป็นตัวเรียกความสนใจ และทึ่งไปกับการที่ TikTok ได้กลายเป็นพื้นที่สำหรับเหล่าศิลปินหน้าใหม่ที่จะเติบโตสิ่งที่เหลือเชื่อที่สุดก็คือ ทั้งหมดนี้ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ในปี 2022 เราจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์และข้อมูลเชิงลึกใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราได้เข้ามามีส่วนร่วมในความสุขและประโยชน์ที่เกิดจากเสียง และได้นำเสียงไปใช้เพื่อขับเคลื่อนผลกำไร อย่าลืมคอยติดตามความเคลื่อนไหวบน TikTok เพราะปีนี้อาจเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราในเรื่องของซาวด์ก็ว่าได้

เสียงที่จะสร้างความสำเร็จในปี 2022

หากคุณกำลังวางกลยุทธ์สำหรับ TikTok ในปี 2022 แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะนำเสียงมาใช้ในแผนอย่างไร ไม่ต้องกังวลไป วันนี้ผู้เชี่ยวชาญ 3 คนจะมาให้คำแนะนำถึงกลยุทธ์ที่แบรนด์ต่างๆ สามารถนำไปปรับใช้เพื่อสร้างความสำเร็จในด้านการเลือกใช้เสียงสำหรับปีนี้ นับตั้งแต่การใช้เครื่องมือล้ำสมัยไปจนถึงการใช้ศิลปินเป็นศูนย์กลางของคอนเทนต์นี่คือบทสัมภาษณ์จากพวกเขา

1.ออกแบบและสร้างสรรค์แบรนดิ้งผ่านเสียงที่โดดเด่น การสร้างแบรนดิ้งผ่านเสียง เป็นวิธีการนำเสนออัตลักษณ์ของบริษัทออกมาอย่างทรงพลัง Cosgrove ตั้งข้อสังเกตว่าเทรนด์บน TikTok ส่วนใหญ่มักจะมาจากเพลงหรือออดิโอสั้นๆ มากกว่าการออกแบบเสียงอย่างเต็มรูปแบบ ในขณะที่Engels ระบุว่า หากแบรนด์ต้องการนำเสนออัตลักษณ์ของตนเองผ่านเสียบน TikTok แบรนด์ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเสียงที่ตัวเองใช้นั้นมีความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร”แบรนด์ต้องสร้างสิ่งที่โดดเด่นขึ้นมา สิ่งที่สื่อถึงตัวตนของแบรนด์อย่างเต็มที่ เพื่อเข้าไปสัมผัสหัวใจของผู้คน และแทรกซึมเข้าไปยังความคิดของพวกเขา ถ้าเสียงของแบรนด์คุณเป็นแบบ ‘ธรรมดา’ ทั่วไป มันก็จะถูกกลืนหายไปเมื่ออยู่รวมกับเสียงอื่นๆ” 

2.คิด (และลงมือทำ) โดยให้ความสำคัญกับศิลปินเป็นหลัก TikTok เป็นพื้นที่แจ้งเกิดสำหรับศิลปินชื่อดังหลายคนในปัจจุบัน พวกเขาสามารถปล่อยเพลงบนแพลตฟอร์ม TikTok เพื่อให้ผู้คนแชร์และเรียกกระแสจากพื้นที่นี้ได้อย่างง่ายดาย เนื่องจาก TikTok มีวัฒนธรรมหลักในเรื่องของการมีส่วนร่วมและร่วมกันสร้างสรรค์ โดย Gruger ระบุว่าพฤติกรรมเช่นนี้จะยังคงดำเนินต่อไปในปี 2022

66% ของผู้ใช้งานระบุว่า TikTok มีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการเพลง

73% ของผู้ใช้เชื่อมโยงเพลงบางเพลงเข้ากับ TikTok

3.เปิดรับและเริ่มใช้เทคโนโลยีด้านเสียงพูดก่อนใคร สำหรับ TikTok นอกจากเสียงดนตรีแล้ว เสียงพูดก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญไม่แพ้กัน ฟีเจอร์แปลงข้อความเป็นคำพูดของเราได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2021 เอฟเฟคต์เสียงถือเป็นแหล่งแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์สำคัญสำหรับผู้ใช้ของเรา และในขณะที่เทคโนโลยีประเภทดังกล่าวยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องไม่สิ้นสุด เสียงพูดจะกลายเป็นส่วนสำคัญยิ่งขึ้นสำหรับ TikTok ในไม่ช้า”ความนิยมในระบบผู้ช่วยเสียงของเราและการที่บางแบรนด์สนใจที่จะศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติม นับเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีของโอกาสในการเติบโตครั้งนี้” Cosgrove กล่าวในขณะที่ Engels ระบุว่า ท่ามกลางวิวัฒนาการในปัจจุบัน เมื่อผู้คนได้ยินเสียงอัตโนมัติรอบตัวมากขึ้น พวกเขาจะเริ่มโหยหาการฟังคำบรรยายด้วยเสียงของมนุษย์จริงซึ่งสิ่งนี้เองอาจกลายเป็นส่วนสำคัญของการเล่าเรื่องบน TikTok ในอนาคต

แบรนด์ต่างๆ ต้องไม่ลืมคำนึงถึงเรื่องของน้ำเสียงในกลยุทธ์การสร้างแบรนดิ้งผ่านเสียงของตัวเอง”หรือพูดง่ายๆ ก็คือ แบรนด์ควรนำเครื่องมือสนุกๆ มาใช้ร่วมกัน เช่น การแปลงข้อความเป็นคำพูด กับเสียงพากย์ที่ตรงไปตรงมาและการอ่านออกเสียงให้เขียนตามคำบอก การผสมผสานกันนี้จะช่วยให้แบรนด์อยู่ในกระแส พร้อมกับสร้างความผูกพันใกล้ชิดกับผู้ชมไปในเวลาเดียวกัน 

มียอดชมวิดีโอกว่า 160B+ วิวบน TikTok วิดีโอที่ติดแฮชแท็ก #VoiceEffects   (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2021)และ 57% ของผู้ใช้จดจำแบรนด์ได้อย่างขึ้นใจจากโฆษณาที่ใช้เสียงตรงไปยังกล้อง

ดรีมทีมฝ่ายครีเอทีฟที่มาแรงสุดในขณะนี้

        มาทำความรู้จักกับดรีมทีมฝ่ายสร้างสรรค์ใหม่ของคุณซึ่งรับรองว่าไม่เหมือนกับครีเอทีฟไดเร็กเตอร์คนไหนที่คุณเคยพบเจอ เพราะนี่คือครีเอเตอร์บน TikTok ที่มีทั้งดาวเด่นที่มีบุคลิกชัดเจน ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรม ผู้นำเทรนด์ และผู้บุกเบิกที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายแคมเปญของคุณได้มากยิ่งกว่าที่คาดหวังไว้ และเห็นผลลัพธ์ที่ทรงพลังและเป็นรูปธรรม ถึงเวลาแล้วที่คุณจะไว้วางใจ ยกเวทีให้ครีเอเตอร์ได้ใช้ไหวพริบและอิทธิพลของตัวเองเพื่อโปรโมทแบรนด์ของคุณอย่างยิ่งใหญ่ในแบบที่แบรนด์สมควรได้รับสถิติคือหลักฐานพิสูจน์ชิ้นสำคัญ จากการสำรวจประเทศในสหภาพยุโรป พบว่าการทำงานร่วมกับครีเอเตอร์บน TikTok ช่วยเพิ่มอัตราการดูผ่านสำหรับโฆษณา   In-Feed Ads มากถึง 193% และคอนเทนต์ที่มีตราสินค้าซึ่งมาจากการทำงานร่วมกันกับครีเอเตอร์ทำให้ผู้ชมจดจำโฆษณาได้มากขึ้นถึง 27% แม้แต่ผู้ใช้ TikTok เองก็เห็นด้วย เพราะ 65% ของผู้ใช้ TikTok รู้สึกเพลิดเพลินไปกับโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ซึ่งผลิตโดยครีเอเตอร์¹ทำไมการใช้ครีเอเตอร์ถึงให้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะครีเอเตอร์ใช้ชีวิตและคลุกคลีอยู่กับ TikTok ซึ่งหมายความว่าพวกเขาเข้าใจเทรนด์ เคล็ดลับ และเทคนิคต่างๆ ของ TikTokอย่างช่ำชอง และสามารถนำสิ่งเหล่านั้นมาประยุกต์ทำเป็นคอนเทนต์ที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็น TikTok ออกมาได้อย่างชัดเจน ประการที่สองคือ ความเชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมของครีเอเตอร์ เมื่อจับคู่เข้ากับสไตล์และรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของ TikTok จะนำพาแบรนด์ของคุณไปสู่ฐานผู้ติดตามที่มีส่วนร่วม เหนียวแน่น และไว้วางใจในแบรนด์ เนื่องจากผู้ติดตามเหล่านี้ยึดถือและเชื่อมั่นในมุมมองของครีเอเตอร์ และจัดเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีความสำคัญสูง

ที่มา What Next _TH from TikTok 




CATEGORIES:

Tags:

No Responses

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *